Packaging คืออะไร? ประเภทที่นิยมใช้ และวิธีเลือกให้เหมาะกับสินค้า
เวลาเราได้ยินคำว่า Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ เรานึกถึงอะไรกันบ้างคะ? แน่นอนว่าหลายคนอาจนึกถึงแค่สิ่งที่ใช้ห่อของ หรือ บรรจุผลิตภัณฑ์ลงไป แต่จริงๆแล้ว packaging ไม่ได้มีดีแค่เรื่องฟังก์ชันอย่างเดียว มันคือ หน้าตา และ ตัวแทนของแบรนด์ ที่จะช่วยสื่อสารกับลูกค้าแบบไม่ต้องพูดอะไรเลย
การเลือก Packaging ที่เหมาะสมตามสินค้าที่เราขาย หรือ position brands ที่วางไว้ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะ ช่วยเสริมทั้งคุณค่าของตัวผลิตภัณฑ์ และ เล่าเรื่องราวของแบรนด์ (storytelling) ไปพร้อมกันอย่างกลมกลืนค่ะ
ประเภทของ Packaging ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม
1. ซองฟอยล์ (Foil Sachet)
ซองฟอยล์เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับสินค้าขนาดทดลองหรือสินค้าที่ต้องการความสะดวกในการพกพา อีกทั้งไปได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง อาหาร หรือเคมีภัณฑ์
- ข้อดีสำคัญคือสามารถ ป้องกันอากาศ ความชื้น และแสง ทำให้ยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้ยาวนาน
- มีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม เหมาะกับการผลิตในปริมาณมากหรือใช้สำหรับโปรโมชั่น ของแถม หรือ ผลิตภัณฑ์แบบ single-use
2. หลอดครีม (Tube)
หลอดครีมเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เรียกว่า อเนกประสงค์จริงๆค่ะ เหมาะกับทั้งสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ อาหาร และเคมีภัณฑ์เบาๆ เช่น ครีม โลชั่น เจล เจลล้างมือ ซอส ขนมปังทาขนม หรือยาสีฟัน
- ข้อดีคือบีบใช้งานสะดวก ควบคุมปริมาณได้แม่นยำ โดยไม่ต้องสัมผัสเนื้อผลิตภัณฑ์โดยตรง ช่วยลดการปนเปื้อน และยังปิดฝาได้แน่น ป้องกันการรั่วหรือแห้งของเนื้อผลิตภัณฑ์
- สามารถผลิตได้หลายขนาดตั้งแต่ขนาดพกพาไปจนถึงขนาดใหญ่สำหรับใช้ประจำ
3. กระปุกครีม (Jar)
กระปุกครีมให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรา เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่เน้นความพรีเมียม เช่น ครีมบำรุงกลางคืน หรือครีมสูตรเข้มข้นพิเศษ
- ข้อดีคือเปิดใช้งานได้ง่ายและแสดงเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้วัสดุที่มีฝาปิดแน่นเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากอากาศและสิ่งแวดล้อม แนะนำให้มีไม้พายหรือสปาตูล่ามาพร้อมเพื่อการใช้งานที่ถูกสุขอนามัย
4. ขวดเซรั่ม (Serum Bottle)
ขวดเซรั่มมักผลิตจากแก้วหรือพลาสติกคุณภาพสูง เพื่อให้เห็นสีและเนื้อของผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจน มักมาพร้อมกับหัวดรอปเปอร์หรือปั๊มเพื่อควบคุมปริมาณการใช้
- จุดเด่นคือดูสะอาด ดูมีคุณภาพ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างประหยัดและแม่นยำ
- หากเลือกใช้วัสดุแก้ว ควรมีกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่ป้องกันการกระแทกเพิ่มเติม
5. ขวดปั๊ม (Pump Bottle)
ขวดปั๊มเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะดวกและถูกหลักสุขอนามัย เช่น โลชั่นบอดี้ โฟมล้างหน้า หรือคลีนซิ่งมิลค์ ข้อดีคือสามารถกดใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดฝา
- ช่วยลดการสัมผัสกับอากาศและลดโอกาสการปนเปื้อนจากมือผู้ใช้ ระบบปั๊มยังช่วยให้ควบคุมปริมาณได้ง่ายและใช้งานสะดวกรวดเร็ว
6. กล่องบรรจุภัณฑ์ (Packaging Box)
กล่องเป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกที่ช่วยเสริมความพรีเมียมและปกป้องผลิตภัณฑ์ภายใน เหมาะกับสินค้าทุกประเภท โดยเฉพาะสินค้าของขวัญและเซ็ตพิเศษ
- การออกแบบกล่องที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอน Unboxing และเพิ่มมูลค่าที่รับรู้ของสินค้า
7. บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบครบวงจร (Complete Cosmetic Packaging)
บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางครอบคลุมตั้งแต่ตลับแป้ง ตลับคุชชั่น พาเลทอายแชโดว์ ตลับลิปสติก ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์มาสคารา สิ่งสำคัญคือการออกแบบให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และใช้งานได้จริง เช่น
- หากแบรนด์มุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติและความยั่งยืน การใช้วัสดุรีไซเคิล โทนสีธรรมชาติ และพื้นผิวแบบแมทจะช่วยสื่อสารค่านิยมนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ในขณะที่แบรนด์ที่เน้นความหรูหราอาจเลือกใช้ตลับโลหะ กระจก หรือพื้นผิวมันเงา เป็นต้นค่ะ
วิธีเลือก Packaging ให้เหมาะกับสินค้า
หลังจากที่เรารู้เแล้วว่าสินค้าเหมาะ Packaging แบบไหน สิ่งที่ต้องคิดตามมาคือ ตัว Packaging เองต้องการจะสื่อสารอะไรไปถึงลูกค้า รวมถึงการคำนึงถึงเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่นกันค่ะ
1) เริ่มจาก ตัวสินค้าของเราเอง
ก่อนจะเลือกว่าขวดไหนดี กล่องแบบไหนสวย ลองหันกลับมาดูตัวสินค้าให้ชัดก่อนค่ะว่ามีข้อจำกัด หรือ ความต้องการเฉพาะอะไรหรือเปล่า เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ ให้บรรจุภัณฑ์ทำหน้าที่ ปกป้องสินค้าให้ดีที่สุด ก่อนคิดเรื่องความสวยค่ะ
- สมมุติ ถ้าสินค้าของคุณอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง ลองดูว่า เป็นเนื้อสัมผัสแบบไหน? เหลวมากแบบเซรั่มหรือออยล์, กึ่งเหลวแบบโลชั่น หรือข้นแบบครีม จากนั้นดูต่อว่า ไวต่อแสงหรืออากาศไหม? ถ้ามีส่วนผสมที่เสื่อมง่าย ก็ควรใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Airless Pump หรือขวดทึบแสง
2) เข้าใจ วิธีที่ลูกค้าใช้จริง
ต่อให้แพ็กเกจสวยแค่ไหน ถ้าใช้งานไม่สะดวกก็ไม่การซื้อซ้ำแน่นอน
- ถ้าใช้ที่บ้าน วางไว้ในห้องน้ำหรือโต๊ะเครื่องแป้ง การมี ขวดปั๊มหรือกระปุกครีม ที่เปิดง่าย หยิบสะดวกจะดีที่สุด
- แต่ถ้าเป็นสินค้าสำหรับพกพา เช่น ไปเที่ยวหรือพกในกระเป๋า หลอดบีบหรือซองฟอยล์จะเหมาะกว่า เพราะเบาและไม่รั่วง่าย
- ส่วนสินค้าที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น เจลล้างมือ หรือคลีนเซอร์ ขวดปั๊มคือทางเลือกปลอดภัยสุด เพราะไม่ต้องสัมผัสเนื้อผลิตภัณฑ์โดยตรง
3) ดู ช่องทางขาย เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์
ช่องทางที่เราขายสินค้ากำหนดได้เลยว่าควรเลือกบรรจุภัณฑ์แบบไหน พูดง่ายๆ คือ ขายที่ไหน ควรเลือก แพ็กเกจให้เหมาะกับเส้นทางของสินค้า ค่ะ
- ถ้าขาย ออนไลน์ ต้องเน้นความแข็งแรง น้ำหนักเบา และกันกระแทกได้ดี เพราะของต้องผ่านการขนส่งหลายรอบ
- ถ้าขาย หน้าร้านหรือวางบนเชลฟ์ ให้คิดถึง ความโดดเด่น และ การอ่านฉลากง่าย กล่องจึงช่วยได้มากในแง่ของภาพลักษณ์
- ถ้าเน้น อีเวนต์หรือตัวอย่างแจก แพ็กเกจควรเปิดง่าย น้ำหนักเบา และต้นทุนไม่สูง เช่น ซองฟอยล์หรือไซซ์ทดลอง
4) ให้ "แพ็กเกจเล่าเรื่องแทนแบรนด์"
ขั้นนี้คือหัวใจของการสร้างแบรนด์ค่ะ เพราะบรรจุภัณฑ์ไม่ใช่แค่สิ่งห่อหุ้ม แต่คือสิ่งที่สื่อสารตัวตนของแบรนด์ในพริบตาเดียว
- แบรนด์ที่เน้นความ เป็นธรรมชาติและรักษ์โลก สามารถใช้ขวดจากวัสดุ rPET/HDPE รีไซเคิล เพื่อส่งต่อแนวคิด eco-friendly ให้ลูกค้ารับรู้ตั้งแต่แรกเห็น ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับโทนสี โลโก้ และจุดยืนของแบรนด์อย่างกลมกลืน
สุดท้ายแล้ว Packaging ไม่ได้มีหน้าที่แค่ห่อสินค้าให้อยู่ในรูปสวย ๆ แต่คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้ารู้จักและจดจำแบรนด์ของเราได้ จึงต้องเริ่มจากการเข้าใจตัวสินค้า เข้าใจวิธีที่ลูกค้าใช้จริง และสื่อสารให้ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์เมื่อทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งฟังก์ชันและความรู้สึก
และถ้าคุณกำลังมองหาผู้ช่วยเรื่องบรรจุภัณฑ์ Napat Packaging พร้อมดูแลตั้งแต่ขั้นออกแบบ ผลิต ไปจนถึงตรวจคุณภาพก่อนส่งถึงมือ ไม่ว่าจะเป็นซองฟอยล์ หลอดครีม หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ เรามีทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจทั้งความสวยและการใช้งานจริง
- ขั้นต่ำน้อย ราคาดี คุณภาพคงที่
- สกรีนคมชัด สีตรงแพนโทน
- ออกแบบฟรี โดยทีมมืออาชีพ
- QC ทุกล็อตก่อนส่งมอบ
- มีโกดังฝากของให้ ฟรี
- ประสบการณ์กว่า 10,000 แบรนด์
ติดต่อคุยรายละเอียด ดูงานจริงได้ที่
Showroom (จ.-ศ. 8:3017:30) : ดูแผนที่ https://maps.app.goo.gl/oQ3DgicA2jzf7Z5f6
Line: @napat.packaging หรือกดลิงก์เลย https://lin.ee/wyfgACy
Website: https://www.napat-packaging.com
โทร: 063-652-1222
